ที่เที่ยว มัลดีฟ ชาร์จพลังใจ ควงที่รักไปสวีทไม่ต้องง้อวีซ่า
ที่เที่ยวมัลดีฟ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มัลดีฟส์ ก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ครองใจคนรักทะเลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งน้ำทะเลที่ใสจนมองเห็นพื้นทรายเบื้องล่าง ใต้ท้องทะเลยังเต็มไปด้วยปะการังและฝูงปลานานาชนิดหลากสีสัน สวรรค์ของนักดำน้ำตัวจริง! และไม่ได้สวยงามแค่ในน้ำเท่านั้น มัลดีฟส์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่น่าสนใจอีกมากมาย เป็นประเทศที่น่าดึงดูดสำหรับผู้รักวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ไม่ได้มีดีแค่ในน้ำ!! และถ้ามัลดีฟส์เป็นส่วนหนึ่งของจุดหมายปลายทางในฝันของคุณด้วย ขอแนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka ก่อน เพราะมีแต่โปรโมชั่น การหาตั๋วโปร ที่พักมัลดีฟ ง่ายมาก แค่ใช้ตัวกรองโปรโมชั่น อีกทั้งประเทศนี้ฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย ตั๋วพร้อมแล้ว จิตใจก็พร้อม มาเมื่อไหร่ก็ได้!
1. นั่งเรือชมปลาโลมา
เรือชมปลาโลมาไม่ใช่สิ่งที่คุณจะหาได้จากทุกที่ แต่ที่มัลดีฟส์มีเธอ!! และเวลาที่นิยมไปออกเรือเพื่อชมปลาโลมาแหวกว่าย โดยปกติจะเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ซึ่งปิดท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตกจากทะเลแบบโรแมนติก ปลาโลมาในมัลดีฟส์ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นมิตรและสงบ อาจเป็นเพราะที่นี่ทุกชีวิตสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติโดยไม่เบียดเบียนกัน ดังนั้นบรรยากาศจึงสมบูรณ์แบบจนผู้คนจากทั่วโลกต้องมาดู แล้วคุณจะพลาดโปรแกรมนี้ไปได้เชียวเหรอ?
2. Sand Bank ที่เที่ยวมัลดีฟ
แซนด์ แบ๊งค์ คือเนินทรายกลางท้องทะเลมัลดีฟส์ที่กระจัดกระจายอยู่หลายแห่ง สามารถพบได้ในช่วงน้ำลง แต่ละครั้งรูปร่างของสันทรายจะเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับทิศทางของคลื่นและลม และนี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวมัลดีฟส์ชอบไปกัน ด้วยการเช่าเรือไปพักผ่อนบนผืนทรายแบบส่วนตัวสุดๆ เพราะคุณสามารถครอบครองเกาะนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น ว่ายน้ำ อาบแดด ปิกนิก และดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครกำลังมองหาช่วงเวลาโรแมนติกกับคนที่คุณรัก หรือกำลังหาที่เที่ยวเก๋ๆ ถ่ายรูปสวยๆ อัพโปรไฟล์ แนะนำเลยค่ะ
3. Hukuru Miskiiy (Old Friday Mosque)
เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในมัลดีฟส์ สร้างขึ้นในปี 1656 เพื่อเป็นที่ฝังพระศพของสุลต่าน ขุนนางและบุคคลสำคัญของประเทศนี้ ผนังภายในมัสยิดประดับด้วยซากปะการัง รวมถึงการใช้ไม้ชนิดต่างๆเป็นส่วนประกอบ. จึงออกมาเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามแตกต่างกันทั้งบริเวณกรอบประตู หน้าต่าง และเสาภายใน การเข้าไปควรแต่งกายให้สุภาพและขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าไปโดยลำพัง แสดงความเคารพต่อสถานที่
4. National Museum ที่เที่ยวมัลดีฟ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมัลดีฟส์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจหากคุณเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ รวมทั้งต้องการศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นและต้นกำเนิดของประเทศนี้. ภายในพิพิธภัณฑ์เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวมากมาย เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ทั้งของอดีตสุลต่านและราชินี รวมถึงอาวุธโบราณหรืองานฝีมือเก่าแก่ของชาวมัลดีฟส์ในอดีต และยังมีภาพบุคคลสำคัญของประเทศให้ชมกันหลายภาพเลยทีเดียว ที่นี่เป็นอีกที่ที่ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์อาจอยากมาเดินเล่นสบายๆ
5. Sea Plane
หากคุณต้องการประสบการณ์ที่ดีและมีงบในกระเป๋าไม่มากนัก แนะนำให้ลองเช่าเครื่องบินน้ำหรือ Seaplane ไปเที่ยวรอบๆ และชมวิวที่สวยที่สุดของเกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทรอินเดียที่มัลดีฟส์ ดูรถ คุณจะเห็นน้ำเป็นสีน้ำเงินเข้ม สีคราม หรือท้องฟ้าใสเกือบเป็นสีขาว ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามระดับความลึกของน้ำทะเลด้านล่าง นอกจากนี้ยังจะได้เห็นแนวปะการังขนาดใหญ่ และผืนน้ำบรรจบผืนฟ้า เพราะมัลดีฟส์นั้นกว้างไกลเกินกว่าจะเดินทางไปชมได้หมด เครื่องบินลำเล็กๆ แบบนี้คือคำตอบและจะเปิดโลกทัศน์แห่งการเดินทางของคุณให้กว้างไกล ตอบโจทย์ได้มากกว่ารถรุ่นอื่นๆ แน่นอนจะทำ
6. Male Local Market
ตลาดเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นในแต่ละประเทศได้ดีที่สุด เพราะนอกจากจะได้ชมพืชผักอย่างสนุกสนานแล้วยังได้ทานอาหารพื้นเมืองแปลกๆ อีกด้วย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมวิถีชีวิต ผู้คนในสถานที่ที่เราไปบ่อย ๆ เรายังสามารถค้นพบเมนูเด็ด ๆ ที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ของการรับประทานอาหารจากตลาดท้องถิ่น การไปเดินดูของกินท้องถิ่นของมัลดีฟส์ที่ตลาดท้องถิ่นจึงเป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด หากคุณเคยมีโอกาสเดินทางมาที่ประเทศนี้
7. Male Fish Market ที่เที่ยวมัลดีฟ
นอกจากตลาดท้องถิ่นแล้ว มัลดีฟส์ยังมีตลาดปลาโดยเฉพาะใกล้กับตลาดสดมาเล ซึ่งภายในเป็นตลาดค้าส่งปลาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จะมีท่าเทียบเรือที่นักตกปลาสามารถขายปลาที่จับได้สดๆ ตั้งแต่ปลาขนาดโตเต็มวัยไปจนถึงปลาทูน่าตัวใหญ่เหมือนที่เห็นในสารคดี นอกจากนี้คุณยังสามารถชมปลายักษ์เหล่านี้ถูกแล่โดยช่างฝีมือผู้ชำนาญของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดอีกด้วย คิดว่าคุณจะเห็นปลาที่ไม่รู้จักมากมายจากที่นี่ เชื่อมั้ย?
8. Mulee-Aage (The Male Presidential Palace)
อาคารอันงดงามแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมอิสลามสไตล์มัลดีฟส์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2457 และสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2462 ก่อนหน้านี้เคยใช้เป็นวังเก่าของสุลต่านชัมซูกีนที่ 3 แต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ระบบสุลต่านในมัลดีฟส์ถูกยกเลิก ต่อมาได้กลายเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีมัลดีฟส์ สำหรับเราขอบอกเลยว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีและอดีตพระราชวังที่น่ารักที่สุด แม้จะไม่สูงตระหง่านเหมือนในต่างประเทศ แต่ที่นี่ก็น่ารักและชนะใจเราด้วยสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์!
9. Submarine Tour
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เราขอแนะนำให้คุณมาค้นพบโลกใต้น้ำของมัลดีฟส์!! คุณจะได้นั่งในเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้ถึง 50 คน ดำน้ำลึก 45 เมตรใต้ทะเลเป็นเวลา 45 นาที ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับความงามของสวนธรรมชาติ ปะการังหลากสีและฝูงปลานานาชนิด เราสามารถนั่งมองใต้ทะเลด้วยกันในห้องแอร์เย็นๆ และถือเป็นกิจกรรมที่ทำได้ทุกเพศทุกวัย ครั้งหนึ่งในชีวิต เชิญมาลองค่ะ
10. Islamic Centre
ที่นี่เป็นมัสยิดกลางซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองมาเล เป็นมัสยิดขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้ถึงราว 5,000 คน ด้านหน้ามัสยิดมีหอสูงเป็นจุดสังเกตอันโดดเด่นสะดุดตา ซึ่งมองเห็นได้ระยะไกลจากท้องทะเล ด้านในตกแต่งด้วยไม้แกะสลักและตัวอักษรอารบิกที่สวยงามและแปลกตา เป็นความน่าสนใจท่ามกลางความเรียบง่ายแต่สงบและงดงาม โดยผู้เข้าชมที่นี่ควรต้องแต่งกายสุภาพ โดยเฉพาะผู้หญิงต้องสวมกระโปรงยาวกรอมเท้าและเสื้อแขนยาวมิดชิดเท่านั้นนะ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าชม
11. Maafushi Island
นอกจากในมาเลซึ่งเป็นเมืองหลวงของมัลดีฟส์แล้ว เกาะนี้คืออีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเดินสำรวจและเรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตประจำวันของชาวมัลดีฟส์ ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของ Kaafu Atoll มีความยาวประมาณ 1.27 กิโลเมตร และมีความกว้างประมาณ 260 เมตรเท่านั้น ใช้เวลาไม่นานก็สามารถเดินชมได้จนทั่วแล้วละ และเพราะเป็นเกาะที่มีชายหาดสวยๆ อยู่หลายแห่ง รวมถึงเป็นที่ตั้งของที่พักมากมาย เกาะนี้จึงเหมาะกับคนที่เป็นสายแบ็คแพ็คและอยากเที่ยวมัลดีฟส์แบบประหยัดงบประมาณ แต่ขอบอกว่าแม้จะไม่ได้เป็นเกาะส่วนตัว แต่ที่นี่ก็มีสีสันและมีพื้นที่สวยๆ สำหรับการพักผ่อนอยู่มากมาย ใครอยากได้ฟีลแบบ local ในการมามัลดีฟส์สักหน่อยละก็ ขอแนะนำ
12. Hulhumale
ความน่าสนใจของที่นี่คือการเป็นเกาะเทียมกลางทะเลที่เกิดจากการสร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์!! โดยเกาะนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพื้นที่เมืองมาเล และมีพื้นที่เกาะอยู่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศมัลดีฟส์ และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.2547 และด้วยความเป็นเกาะซึ่งถูกเนรมิตขึ้นมา ที่นี่จึงมีพื้นที่สวน โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงร้านค้ามากมาย ใครชอบความสะดวกสบาย และอยากมาเห็นว่าชาวมัลดีฟส์นั้นเนรมิตแผ่นดินกลางน้ำทะเลได้เริ่ดขนาดไหน ก็แวะมาเดินเล่นดู